ในโลกของการจัดการความปลอดภัยและอาชีวอนามัย การมีมาตรฐานที่ชัดเจนและเป็นที่ยอมรับในระดับสากลเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งเพื่อให้มั่นใจว่าสถานประกอบการสามารถดูแลความปลอดภัยของพนักงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในอดีต OHSAS 18001 เป็นมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลาย แต่ในปัจจุบัน ISO 45001 ได้เข้ามาแทนที่และกลายเป็นมาตรฐานใหม่ที่องค์กรทั่วโลกหันมาใช้กันมากขึ้น
ความเป็นมาของมาตรฐาน ISO 45001 vs OHSAS 18001
OHSAS 18001 (Occupational Health and Safety Assessment Series) ถูกพัฒนาขึ้นในปี 1999 โดยกลุ่มองค์กรมาตรฐานในสหราชอาณาจักร เนื่องจากในขณะนั้นยังไม่มีมาตรฐานสากลสำหรับการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัยในที่ทำงาน อย่างไรก็ตาม แม้จะได้รับความนิยม OHSAS 18001 ไม่ใช่มาตรฐานที่พัฒนาโดยองค์การระหว่างประเทศว่าด้วยการมาตรฐาน (ISO)
ในปี 2018 ISO ได้เปิดตัว ISO 45001 เพื่อเป็นมาตรฐานสากลสำหรับระบบการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย (Occupational Health and Safety Management Systems – OHSMS) ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อทดแทน OHSAS 18001 และยกระดับมาตรฐานการจัดการให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากลอื่นๆ เช่น ISO 9001 (การจัดการคุณภาพ) และ ISO 14001 (การจัดการสิ่งแวดล้อม)
8 ความแตกต่างของมาตรฐาน ISO 45001 vs OHSAS 18001
1. โครงสร้างของมาตรฐาน (Structure)
หนึ่งในความแตกต่างที่สำคัญที่สุดระหว่าง ISO 45001 และ OHSAS 18001 คือโครงสร้างของมาตรฐาน
- ISO 45001 ใช้ โครงสร้างระดับสูง (High-Level Structure: HLS) ที่เป็นมาตรฐานเดียวกันกับ ISO 9001 (ระบบบริหารคุณภาพ) และ ISO 14001 (ระบบการจัดการสิ่งแวดล้อม) ซึ่งโครงสร้างนี้ช่วยให้องค์กรที่ต้องการบูรณาการหลายระบบสามารถดำเนินการได้อย่างง่ายดาย ไม่ต้องสร้างระบบใหม่แยกจากกัน แต่สามารถรวมเข้าด้วยกันได้อย่างลงตัว
- OHSAS 18001 ไม่มีการใช้โครงสร้างระดับสูงแบบเดียวกับ ISO ทำให้การบูรณาการกับมาตรฐานอื่น ๆ ซับซ้อนกว่า และอาจต้องใช้เวลาและทรัพยากรมากขึ้นในการปรับระบบให้สอดคล้องกัน
2. การมีส่วนร่วมของผู้นำองค์กร (Leadership and Management Involvement)
ISO 45001 เน้นบทบาทของผู้บริหารระดับสูงมากขึ้นในการขับเคลื่อนระบบการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย
- ISO 45001 กำหนดให้ผู้บริหารระดับสูงมีส่วนร่วมอย่างเต็มที่ในการกำหนดนโยบาย วัฒนธรรม และเป้าหมายด้านความปลอดภัย ไม่ใช่แค่การมอบหมายงานให้กับเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยเท่านั้น ผู้บริหารต้องมีบทบาทในการแสดงความมุ่งมั่นและสนับสนุนการปรับปรุงระบบอย่างต่อเนื่อง
- OHSAS 18001 มุ่งเน้นที่การจัดการผ่านตัวแทนหรือเจ้าหน้าที่ด้านความปลอดภัยเป็นหลัก การมีส่วนร่วมของผู้บริหารอาจไม่เด่นชัดเท่ากับ ISO 45001
3. การมุ่งเน้นเชิงป้องกัน (Proactive Approach)
ISO 45001 เน้นการป้องกันมากกว่าเพียงแค่การตอบสนองต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว
- ISO 45001 ไม่เพียงแต่ระบุความเสี่ยง แต่ยังต้องพิจารณาโอกาสในการปรับปรุงสภาพแวดล้อมการทำงานให้ปลอดภัยยิ่งขึ้น องค์กรต้องมีการวิเคราะห์เชิงลึกเพื่อหาวิธีการป้องกันที่มีประสิทธิภาพ
- OHSAS 18001 มุ่งเน้นไปที่การระบุและควบคุมความเสี่ยงที่มีอยู่ โดยไม่ได้เน้นหนักในเรื่องการค้นหาโอกาสในการปรับปรุงเชิงรุกเท่าที่ควร
4. การมีส่วนร่วมของพนักงาน (Employee Participation)
การมีส่วนร่วมของพนักงานเป็นองค์ประกอบสำคัญในการสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยในองค์กร
- ISO 45001 เน้นการมีส่วนร่วมของพนักงานในทุกระดับอย่างชัดเจน พนักงานต้องมีโอกาสแสดงความคิดเห็น เสนอแนะ และมีส่วนร่วมในการประเมินความเสี่ยง รวมถึงการตัดสินใจในมาตรการความปลอดภัย
- OHSAS 18001 แม้จะมีการระบุถึงความสำคัญของการมีส่วนร่วมของพนักงาน แต่ไม่ได้ให้ความสำคัญในระดับเดียวกับ ISO 45001
5. การจัดการบริบทขององค์กร (Context of the Organization)
ISO 45001 นำแนวคิดการวิเคราะห์บริบทขององค์กรเข้ามาใช้ ซึ่งไม่เคยมีใน OHSAS 18001
- ISO 45001 กำหนดให้องค์กรต้องวิเคราะห์ทั้งบริบทภายในและภายนอก เช่น การเปลี่ยนแปลงทางกฎหมาย เทคโนโลยี หรือเศรษฐกิจ รวมถึงการระบุผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (Stakeholders) และความคาดหวังของพวกเขา เพื่อให้ระบบการจัดการครอบคลุมและเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมที่องค์กรดำเนินงานอยู่
- OHSAS 18001 ไม่มีข้อกำหนดเกี่ยวกับการวิเคราะห์บริบทขององค์กร ทำให้การปรับระบบอาจไม่ครอบคลุมปัจจัยภายนอกที่มีผลกระทบต่อความปลอดภัย
6. การจัดการความเสี่ยงและโอกาส (Risk and Opportunity Management)
- ISO 45001 ไม่เพียงแต่เน้นการระบุและควบคุมความเสี่ยงเท่านั้น แต่ยังให้ความสำคัญกับการหาทางใช้โอกาสในการปรับปรุงระบบอาชีวอนามัยและความปลอดภัย ตัวอย่างเช่น การนำเทคโนโลยีใหม่มาใช้เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการทำงาน
- OHSAS 18001 มุ่งเน้นไปที่การระบุและควบคุมความเสี่ยงเป็นหลัก โดยไม่มีการเน้นถึงการใช้โอกาสในการพัฒนาและปรับปรุงระบบ
7. ข้อกำหนดเกี่ยวกับซัพพลายเออร์และคู่ค้า (Supply Chain Management)
ISO 45001 ขยายขอบเขตความรับผิดชอบไปถึงซัพพลายเออร์และคู่ค้าเพื่อให้แน่ใจว่ามาตรฐานความปลอดภัยครอบคลุมทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง
- ISO 45001 กำหนดให้องค์กรต้องพิจารณาและจัดการความเสี่ยงที่อาจเกิดจากซัพพลายเออร์และคู่ค้า เช่น การตรวจสอบว่าผู้รับเหมาปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยที่กำหนด
- OHSAS 18001 มุ่งเน้นเฉพาะภายในองค์กร และไม่ได้ให้ความสำคัญกับห่วงโซ่อุปทานเท่าที่ควร
8. การตรวจสอบและการปรับปรุง (Monitoring and Continuous Improvement)
การปรับปรุงอย่างต่อเนื่องเป็นหัวใจสำคัญ ของระบบการจัดการที่มีประสิทธิภาพ
- ISO 45001 เน้นการใช้ วงจร PDCA (Plan-Do-Check-Act) อย่างเข้มข้น เพื่อให้การดำเนินงานสามารถปรับปรุงได้อย่างต่อเนื่อง โดยองค์กรต้องมีการทบทวนและวิเคราะห์ผลการดำเนินงานอย่างสม่ำเสมอ
- OHSAS 18001 แม้จะใช้วงจร PDCA เช่นกัน แต่ไม่ได้เน้นเรื่องการปรับปรุงเชิงกลยุทธ์เท่ากับ ISO 45001
ตารางสรุปความแตกต่างระหว่าง ISO 45001 และ OHSAS 18001
หัวข้อ | ISO 45001 | OHSAS 18001 |
---|---|---|
โครงสร้างมาตรฐาน | ใช้โครงสร้างระดับสูง (HLS) สอดคล้องกับ ISO อื่น ๆ เช่น ISO 9001, ISO 14001 | ไม่มีโครงสร้างระดับสูง ทำให้การบูรณาการกับมาตรฐานอื่นทำได้ยากกว่า |
การมีส่วนร่วมของผู้นำองค์กร | เน้นบทบาทของผู้บริหารระดับสูงในการกำหนดนโยบายและสนับสนุนระบบความปลอดภัย | มุ่งเน้นให้เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยเป็นผู้รับผิดชอบหลัก |
แนวทางการป้องกัน | เน้นการวิเคราะห์โอกาสและการป้องกันเชิงรุกมากขึ้น | เน้นการระบุและควบคุมความเสี่ยงที่มีอยู่แล้ว |
การมีส่วนร่วมของพนักงาน | ส่งเสริมให้พนักงานทุกระดับมีส่วนร่วมในการตัดสินใจและปรับปรุงระบบ | มีการกล่าวถึงการมีส่วนร่วมของพนักงาน แต่ไม่เน้นเท่า ISO 45001 |
การวิเคราะห์บริบทขององค์กร | ต้องวิเคราะห์บริบทภายในและภายนอก รวมถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย | ไม่มีข้อกำหนดเกี่ยวกับการวิเคราะห์บริบทขององค์กร |
การจัดการความเสี่ยงและโอกาส | เน้นการจัดการทั้งความเสี่ยงและโอกาสในการพัฒนาระบบความปลอดภัย | เน้นการระบุและควบคุมความเสี่ยงเป็นหลัก |
การบริหารจัดการซัพพลายเออร์ | ขยายความรับผิดชอบไปถึงซัพพลายเออร์และคู่ค้าเพื่อให้มั่นใจว่าปลอดภัย | มุ่งเน้นเฉพาะภายในองค์กร ไม่ได้ให้ความสำคัญกับห่วงโซ่อุปทานเท่าที่ควร |
การตรวจสอบและปรับปรุง | เน้นการใช้วงจร PDCA เพื่อปรับปรุงระบบอย่างต่อเนื่อง | ใช้วงจร PDCA เช่นกัน แต่ไม่เน้นการปรับปรุงเชิงกลยุทธ์เท่า ISO 45001 |
การเปลี่ยนแปลงจาก OHSAS 18001 ไปสู่ ISO 45001
องค์กรที่ได้รับการรับรอง OHSAS 18001 ควรพิจารณาการเปลี่ยนแปลงไปสู่ ISO 45001 เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานใหม่ กระบวนการเปลี่ยนผ่านนี้รวมถึง:
- วิเคราะห์ช่องว่างความต่างของมาตรฐาน: ตรวจสอบความแตกต่างระหว่างระบบปัจจุบันกับข้อกำหนดของ ISO 45001
- อบรมและการสื่อสาร: ให้ความรู้แก่พนักงานและผู้บริหารเกี่ยวกับข้อกำหนดใหม่
- ปรับปรุงเอกสารและขั้นตอน: อัปเดตนโยบาย กระบวนการ และเอกสารที่เกี่ยวข้องให้สอดคล้องกับ ISO 45001
- ตรวจสอบภายในองค์กร: ดำเนินการตรวจสอบภายในเพื่อให้แน่ใจว่าระบบใหม่ทำงานได้ตามมาตรฐาน
- ขอการรับรองใหม่: ติดต่อหน่วยงานรับรองเพื่อตรวจสอบและออกใบรับรองตามมาตรฐาน ISO 45001
สรุป
ISO 45001 เป็นมาตรฐานที่มีความครอบคลุมและทันสมัยกว่ามากเมื่อเทียบกับ OHSAS 18001 เนื่องจากมีการเน้นภาวะผู้นำ การมีส่วนร่วมของพนักงาน การวิเคราะห์บริบทขององค์กร และการจัดการทั้งความเสี่ยงและโอกาส องค์กรที่ต้องการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยในที่ทำงานควรพิจารณาการเปลี่ยนแปลงไปสู่ ISO 45001 เพื่อให้สามารถบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับมาตรฐานสากล
การเพิ่มพูนความรู้ด้านความปลอดภัยและเตรียมความพร้อมสำหรับมาตรฐานใหม่เป้นสิ่งที่ เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยระดับเทคนิค (จป.เทคนิค) ขององค์กรต้องพัฒนาความรู้อยู่เสมอ ตามกฎหมายแล้วก่อนทำงาน จป เทคนิค ต้องผ่านการอบรมตามหลักสูตรที่กำหนด และหลังการจบการอบรมต้องเข้าอบรมพัฒนาความรู้ จป 12 ชม. ทุกปี
- สนใจหลักสูตร จป เทคนิค >> อบรม จป เทคนิค ชลบุรี
การทำความเข้าใจความแตกต่างระหว่าง ISO 45001 และ OHSAS 18001 ไม่เพียงช่วยให้ผู้อ่านเห็นภาพรวมของการเปลี่ยนแปลงเท่านั้น แต่ยังเป็นแรงผลักดันให้เกิดการพัฒนาวัฒนธรรมความปลอดภัยในองค์กรอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน
บทความที่น่าสนใจ
- สัดส่วนของคณะกรรมการความปลอดภัยในการทำงาน (คปอ.) มีใครบ้าง
- เทคนิค Root Cause Analysis (RCA)
- หลัก PDCA กลยุทธ์การบริหารความปลอดภัย ในองค์กร